ประกาศฯ เกี่ยวกับภาษีเงินได้ DG.N.-I.T

ประกาศอธิบดีกรมสรรพกรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 456
เรื่อง (ไทย) | ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 456) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายไปในการเดินทางท่องเที่ยวหรือการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ และกำหนดเขตพื้นที่เพิ่มเติมจากจังหวัดท่องเที่ยวรอง |
เรื่อง (อังกฤษ) | |
ภาษาไทย (TH) | ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 456) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายไปในการเดินทางท่องเที่ยวหรือการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ และกำหนดเขตพื้นที่เพิ่มเติมจากจังหวัดท่องเที่ยวรอง _________________ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 และมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 792) พ.ศ. 2567 อธิบดีกรมสรรพากร กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายไปในการเดินทางท่องเที่ยวหรือการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ และกำหนดเขตพื้นที่เพิ่มเติมจากจังหวัดท่องเที่ยวรอง ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ในประกาศนี้ “เขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น” หมายความว่า เขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “ผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยว” หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยวที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย ว่าด้วยธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก์ “ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม” หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม “ผู้ประกอบกิจการโฮมสเตย์ไทย” หมายความว่า ผู้ประกอบกิจการให้บริการที่พักโฮมสเตย์ไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “ผู้ประกอบกิจการสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม” หมายความว่า ผู้ประกอบกิจการให้บริการที่พัก ในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม “สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม” หมายความว่า สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วย โรงแรม ประกอบกับกฎกระทรวง กําหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม “ค่าห้องสัมมนา” หมายความรวมถึงค่าใช้จ่ายที่ผู้ให้บริการห้องสัมมนาเรียกเก็บเป็นค่าอาหาร และเครื่องดื่มจากการใช้ห้องสัมมนาตามปกติทางการค้า “รายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนา” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายเพื่อการจัดการ ค่าวิทยากร และค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการอบรมสัมมนา เช่น ค่าเอกสารประกอบการอบรม ค่าจ้างถ่ายเอกสาร ค่าบันทึกภาพและเสียง และค่าจัดทําสื่อที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรในการฝึกอบรม “ใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ใบกํากับภาษีซึ่งมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่ได้จัดทําโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามมาตรา 3 โสฬส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 384 (พ.ศ. 2565) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดําเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งนี้ ต้องระบุชื่อและเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการในใบกำกับภาษีด้วย “ใบรับอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ใบรับซึ่งมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่ได้จัดทําโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามมาตรา 3 โสฬส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 384 (พ.ศ. 2565) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดําเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ต้องระบุชื่อและเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้รับบริการในใบรับด้วย ข้อ 2 การจ่ายค่าบริการหรือค่าที่พักสําหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นที่บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 792) พ.ศ. 2567 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) เป็นการจ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยว สําหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น (2) เป็นการจ่ายค่าที่พักในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ดังต่อไปนี้ (ก) ค่าที่พักในโรงแรมที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ข) ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบกิจการโฮมสเตย์ไทย (ค) ค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบกิจการสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม (3) เป็นการจ่ายค่าบริการหรือค่าที่พัก และมีการใช้บริการหรือเข้าพักภายในช่วงระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 โดยให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ สําหรับการจ่ายค่าบริการหรือค่าที่พักในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 15,000 บาท ข้อ 3 การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สําหรับเงินได้เท่าที่บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พัก ตามข้อ 2 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องมิใช่ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล โดยให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท (2) กรณีสามีหรือภริยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท (3) กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ (ก) กรณีต่างฝ่ายต่างยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่ตนได้รับ หรือแยกยื่นรายการ และเสียภาษีเฉพาะส่วนที่เป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร โดยไม่ถือเป็นเงินได้ของอีกฝ่ายหนึ่ง ตามมาตรา 57 ฉ แห่งประมวลรัษฎากร ให้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามจํานวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท (ข) กรณีสามีภริยาตกลงยื่นรายการและเสียภาษีรวมกัน โดยถือเอาเงินได้พึงประเมินของตนเป็นเงินได้ของสามีหรือภริยาอีกฝ่ายหนึ่ง ตามมาตรา 57 ฉ แห่งประมวลรัษฎากร ให้ผู้มีเงินได้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามจํานวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท และให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ส่วนของสามีหรือภริยาได้ตามจํานวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท ข้อ 4 บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามข้อ 2 จะต้องมีหลักฐานเป็นใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยต้องระบุเลขประจําตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้มีเงินได้วัน เดือน ปี ที่เดินทางท่องเที่ยว หรือเข้าพัก และจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรืออำเภอและจังหวัดในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นที่ผู้มีเงินได้เดินทางท่องเที่ยวหรือเข้าพักตามข้อ 2 (2) ตั้งอยู่ กรณีผู้ให้บริการตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมให้ระบุเลขที่รับแจ้งและจังหวัด ตามหนังสือรับแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ที่ออกโดยนายทะเบียนกระทรวงมหาดไทยด้วย ข้อ 5 การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ให้บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้มีสิทธินําเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีไปคํานวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร หลังจากหักค่าใช้จ่าย ตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ข้อ 6 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดให้มีการอบรมสัมมนาภายในประเทศเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถลูกจ้างของตน และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ต้องจัดทําโครงการการอบรมสัมมนาโดยมีหลักฐานเอกสารประกอบโครงการเพื่อประโยชน์ในการแสดงต่อเจ้าพนักงานประเมิน ข้อ 7 รายจ่ายที่ได้จ่ายไปในการอบรมสัมมนาภายในประเทศต้องเป็นรายจ่าย ดังต่อไปนี้ (1) ค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่าย ทั้งนี้ ห้องสัมมนาและห้องพักอาจไม่อยู่ในสถานประกอบการเดียวกันก็ได้ แต่จะต้องเกี่ยวเนื่องกับการอบรมสัมมนาในคราวเดียวกันนั้น (2) ค่าบริการที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนําเที่ยว และมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนา ต้องมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากนายทะเบียน ข้อ 8 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 792) พ.ศ. 2567 ต้องไม่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 437) พ.ศ. 2548 ข้อ 9 ใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ตามมาตรา 5 หรือมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 792) พ.ศ. 2567 จะต้องจัดทําโดยผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับที่อธิบดีกรมสรรพากร ประกาศรายชื่อตามข้อ 12 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 384 (พ.ศ. 2565) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดําเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 10 กําหนดให้เขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นตามรายชื่อเขตพื้นที่ท่องเที่ยวแนบท้ายประกาศนี้ เป็นเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามมาตรา 4 และมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 792) พ.ศ. 2567 ข้อ 11 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2568 ปิ่นสาย สุรัสวดี (นายปิ่นสาย สุรัสวดี) อธิบดีกรมสรรพากร |
ภาษาอังกฤษ (EN) | ขออภัย สำหรับหัวข้อนี้ไม่มีการแปลภาษาอังกฤษค่ะ Sorry, This Regulation doesn’t have English Translation. |
Tax-EZ(easy) Note |