พระราชกฤษฏีกา R.D

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ฉบับที่ 797


เรื่อง (ไทย) พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 797) พ.ศ. 2568 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
เรื่อง (อังกฤษ)
ภาษาไทย (TH)

พระราชกฤษฎีกา

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 797)

พ.ศ. 2568

________________________

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ

พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ให้ไว้ ณ วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน


            พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

            โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในบางกรณี

            อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

            มาตรา  1  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 797) พ.ศ. 2568”

            มาตรา  2  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

            มาตรา  3  ในพระราชกฤษฎีกานี้

            “สินค้า” หมายความว่า ทรัพย์สินที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่างที่อาจมีราคาและถือเอาได้ที่มีไว้เพื่อขายเท่านั้น

            “บริการ” หมายความว่า การกระทำใด ๆ อันอาจหาประโยชน์อันมีมูลค่าซึ่งมิใช่การผลิตสินค้า หรือการขายสินค้า

            “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” หมายความว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษตามข้อ 9 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. 2564

            มาตรา  4  ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ตาม (ก) ของ (2) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแห่งบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละสิบของกำไรสุทธิ ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการเป้าหมายตามที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนประกาศกำหนด ซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตเศรษอิกิจพิเศษ ไม่ว่าจะมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ ที่ใด สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นจากการผลิตสินค้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือรายได้ที่เกิดจากการให้บริการและมีการใช้บริการนั้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นเวลาสิบรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

            บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามวรรคหนึ่ง หากจดทะเบียนจัดตั้งนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ สถานประกอบกิจการที่ตั้งขึ้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องเป็นอาคารถาวรแต่ถ้าจดทะเบียนก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ สถานประกอบกิจการที่ตั้งขึ้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องเป็นอาคารถาวรที่ขยายหรือเพิ่มเดิมจากสถานประกอบกิจการที่มีอยู่เดิม

            มาตรา  5  การนับรอบระยะเวลาบัญชีตามมาตรา 4 ให้นับรอบระยะเวลาบัญชี ดังต่อไปนี้

            (1) กรณีที่รอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ได้จดแจ้งขอใช้สิทธิประโยชน์ต่อกรมสรรพากร ตามมาตรา 6 (1) ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรก

            (2) กรณีที่มีการจดแจ้งขอใช้สิทธิประโยชน์ต่อกรมสรรพากรตามมาตรา 6 (1) ระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรก แม้ว่าจะมีระยะเวลาน้อยกว่าสิบสองเดือนก็ตาม

            มาตรา  6  บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะได้รับสิทธิในการลดอัตราภาษีเงินได้ ตามมาตรา 4 จะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

            (1) ได้จดแจ้งการขอใช้สิทธิการเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

            (2) ต้องไม่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

            (3) ต้องไม่ใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ตามมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 530) พ.ศ. 2554 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 583) พ.ศ. 2558 หรือสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 530) พ.ศ. 2554 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 564) พ.ศ. 2556

            (4) ต้องไม่ใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 591) พ.ศ. 2558 หรือมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 693) พ.ศ. 2563

            (5) ต้องจัดทำบัญชีแยกรายการสำหรับกิจการที่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและกิจการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

            (6) ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนดตามมาตรา 4

            ในกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขาดคุณสมบัติตามวรรคหนึ่งข้อหนึ่งข้อใดในรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้การได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสิ้นสุดลงตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีนั้น

            มาตรา  7  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้



ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ


แพทองธาร ชินวัตร

นายกรัฐมนตรี


____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________


หมายเหตุ :-  เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจและการขยายการลงทุน จงใจให้เกิดการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่องและเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว รวมถึงยกระดับการผลิตและการให้บริการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษให้สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักและประเทศเพื่อนบ้าน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้



ราชกิจจานุเบกษา  เล่ม 142  ตอนที่ 38 ก  หน้า 17-20  ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2568

ภาษาอังกฤษ (EN)

ขออภัย สำหรับหัวข้อนี้ไม่มีการแปลภาษาอังกฤษค่ะ

Sorry, This Regulation doesn’t have English Translation.

Tax-EZ(easy) Note