แนวปฎิบัติคำสั่งกรมสรรพากร (ทป) D.R.

คำสั่งกรมสรรพากร (ท.ป.) 337/2564


เรื่อง (ไทย) มอบหมายให้สั่งและดำเนินการเกี่ยวกับการพิจารณางดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ บางกรณี
เรื่อง (อังกฤษ)
ภาษาไทย (TH)

คำสั่งกรมสรรพากร

ที่ ท.ป. 337/2564

เรื่อง มอบหมายให้สั่งและดำเนินการเกี่ยวกับการพิจารณางดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม

และภาษีธุรกิจเฉพาะ บางกรณี

_________________

            เพื่อให้การสั่งงดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะบางกรณีเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 มาตรา 2 แห่งประมวลรัษฎากร ข้อ 11 และข้อ 13 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 81/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 22 มาตรา 26 มาตรา 67 ตรี มาตรา 89 และมาตรา 91/21 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 และข้อ 2 (1) (2) และ (4) ของคำสั่ง กรมสรรพากรที่ ท.ป. 121/2545 เรื่อง มอบหมายให้สั่งและดำเนินการเกี่ยวกับการพิจารณางด หรือลดเบี้ยปรับภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ลงวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2545 อธิบดีกรมสรรพากรจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

            ข้อ  1  มอบหมายให้สรรพากรพื้นที่ สำหรับเขตท้องที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่นั้น ผู้อำนวยการกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ตามที่กรมสรรพากรกำหนด และผู้อำนวยการกองตรวจสอบภาษีกลาง สำหรับเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร สั่งงดเบี้ยปรับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 89 (2) มาตรา 89 (3) มาตรา 89 (4) และมาตรา 91/21 (6) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเดือนภาษีสิงหาคม 2564 ถึงเดือนภาษี พฤศจิกายน 2564 โดยไม่จำกัดจำนวนเบี้ยปรับ

            การงดเบี้ยปรับตามวรรคหนึ่ง เฉพาะกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/3 มาตรา 83 และมาตรา 83/4 แห่งประมวลรัษฎากร หรือกรณีผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/8 และมาตรา 91/10 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีพร้อมทั้งเงินเพิ่มตามแบบแสดงรายการ ทั้งจำนวนให้ครบถ้วนในแต่ละคราวภายในกำหนดเวลาสามเดือน นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือกำหนดเวลาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรืออธิบดีกรมสรรพากรขยายหรือเลื่อนออกไป แล้วแต่กรณี

            ข้อ  2  มอบหมายให้เจ้าพนักงานประเมินสั่งลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 89 (2) มาตรา 89 (3) มาตรา 89 (4) และมาตรา 91/21 (6) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเดือนภาษีสิงหาคม 2564 ถึงเดือนภาษีพฤศจิกายน 2564 โดยให้เสียเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 2 ของเบี้ยปรับตามกฎหมาย

            การลดเบี้ยปรับตามวรรคหนึ่ง เฉพาะกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/3 มาตรา 83 และมาตรา 83/4 แห่งประมวลรัษฎากร หรือกรณีผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/8 และมาตรา 91/10 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้ดำเนินการเป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 2 กรณี ดังนี้

                (1) ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีธุรกิจเฉพาะ แล้วแต่กรณี และชำระภาษีไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของจำนวนเงินภาษีที่ต้อง ชำระตามแบบแสดงรายการทั้งจำนวนในแต่ละคราวภายในกำหนดเวลาสามเดือนนับแต่ วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือกำหนดเวลาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรืออธิบดีกรมสรรพากรขยายหรือเลื่อนออกไป แล้วแต่กรณี

                (2) ชำระภาษีอากรค้างส่วนที่เหลือนั้นให้ครบถ้วนภายในกำหนดเวลาสามเดือน นับแต่วันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการตาม (1) แล้วแต่กรณี

            ข้อ  3  คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564


เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)

อธิบดีกรมสรรพากร


ราชกิจจานุเบกษา  เลม 138 ตอนที่ 76 ง  หน้า 176-177  ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2564

ภาษาอังกฤษ (EN)

ขออภัย สำหรับหัวข้อนี้ไม่มีการแปลภาษาอังกฤษค่ะ

Sorry, This Regulation doesn’t have English Translation.

Tax-EZ(easy) Note