ประกาศกรมสรรพากร D.N.

ประกาศกรมสรรพากร ประกาศ ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561


เรื่อง (ไทย) การบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)
เรื่อง (อังกฤษ)
ภาษาไทย (TH)

ประกาศกรมสรรพากร

เรื่อง  การบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( e -Donation )

_________________

            เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่หน่วยรับบริจาคในการบันทึกข้อมูลการรับบริจาคโดยไม่ต้องออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาคให้ผู้บริจาค และผู้บริจาคสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคให้แก่หน่วยรับบริจาคไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ตามมาตรา 47 (7) แห่งประมวลรัษฎากร หรือหักเป็นรายจ่ายของบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร หรือยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร หรือกฎกระทรวงออกตามความในมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากรได้ โดยไม่ต้องมีเอกสาร หลักฐานการบริจาคให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรมสรรพากรจึงออกประกาศเกี่ยวกับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ดังต่อไปนี้

            ข้อ  1  ในประกาศนี้

            “หน่วยรับบริจาค ” หมายความว่า หน่วยรับบริจาคที่ผู้บริจาคได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร

            “ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation)” หมายความว่า ระบบที่ใช้สร้างและเก็บรักษาข้อมูลการบริจาคในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร

            “ธนาคาร” หมายความว่า ธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินและธนาคาร ที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ซึ่งได้ทำบันทึกข้อตกลงการรับส่งข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) กับกรมสรรพากร

            ข้อ  2  ให้หน่วยรับบริจาคมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค ส าหรับการเปิดบัญชี เงินฝากธนาคารเพื่อรับบริจาค หรือการลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ดังนี้

            (1) หน่วยรับบริจาคที่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ให้ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรนั้น เป็นเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค

            (2) หน่วยรับบริจาคที่เป็นหน่วยงานในสังกัดของทางราชการ องค์การของรัฐบาล สภากาชาดไทย หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งมีและใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรหมายเลขเดียวกับหน่วยงานต้นสังกัด ให้หน่วยรับบริจาคดังกล่าวยื่นคำขอมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่

            (3) หน่วยรับบริจาคอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (1) และ (2) ให้ยื่นคำขอมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่

            เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาคตาม (2) และ (3) มิใช่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร

            ข้อ  3  หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคผ่านธนาคารโดย QR Code หรือ Bar Code ให้ปฏิบัติ ดังนี้

            (1) เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค และใช้ชื่อบัญชีหน่วยรับบริจาคเพื่อรับบริจาคโดย QR Code หรือ Bar Code

            (2) ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาคให้กรมสรรพากร โดยกำหนดให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับบริจาคให้กรมสรรพากรภายในสองวันทำการนับแต่วันที่หน่วยรับบริจาคได้รับบริจาค ตามรูปแบบและวิธีการส่งข้อมูล การรับบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ที่ธนาคารได้ทำไว้กับกรมสรรพากร

            ข้อ  4  หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคโดยวิธีอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในข้อ 3 ให้ปฏิบัติ ดังนี้

            (1) ลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th โดยต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง

            (2) หน่วยรับบริจาคโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาคหรือผู้รับมอบอำนาจ ต้องมาแสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

                  (ก) ใบลงทะเบียนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ตาม (1) พร้อมลงลายมือชื่อของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค

                  (ข) สำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคพร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง

                  (ค) สำเนาหนังสือการแต่งตั้งผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง

                  (ง) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาคพร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาแสดงตัวและยื่นเอกสารหลักฐานแทน

            (3) เมื่อหน่วยรับบริจาคได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) แล้ว หน่วยรับบริจาคจะได้รับชื่อผู้ใช้งาน (Username) ผ่านที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ของหน่วยรับบริจาคที่ระบุไว้ในใบลงทะเบียนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) และให้หน่วยรับบริจาคเป็นผู้กำหนดรหัสผ่าน (Password) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th เพื่อเข้าใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation)

            (4) ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) เป็นหลักฐานแสดงการลงลายมือชื่อ ของหน่วยรับบริจาคในการใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th หน่วยรับบริจาคต้องเก็บรักษาชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) ไว้เป็นความลับ การระบุชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) เข้าใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ถือเป็นการยืนยันหน่วยรับบริจาค และรับรองข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

            (5) กรณีหน่วยรับบริจาคต้องการแก้ไขข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้เพื่อใช้ในการอ้างอิงหรือยืนยันหน่วยรับบริจาค เช่น ชื่อ -นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทน หน่วยรับบริจาค ที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) หมายเลขโทรศัพท์ ให้หน่วยรับบริจาค ทำการแก้ไขข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th

            การติดต่อหน่วยรับบริจาคไปยังที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรือที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ที่กรมสรรพากรได้รับแจ้งไว้ ถือว่าเป็นการติดต่อโดยชอบจนกว่าจะได้มีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ตามวรรคหนึ่ง

            (6) ให้หน่วยรับบริจาคทำการบันทึกและส่งข้อมูลการรับบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ในวันที่รับบริจาค หรือภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป โดยไม่ต้องออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาคให้ผู้บริจาค เว้นแต่ผู้บริจาคจะร้องขอให้ออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาค

            ข้อ  5  ผู้บริจาคที่มีความประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรให้ปฏิบัติ ดังนี้

            (1) กรณีบริจาคให้หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคผ่านธนาคารโดย QR Code หรือ Bar Code ตามข้อ 3 ให้ผู้บริจาคทำการสแกน QR Code หรือ Bar Code ผ่าน Mobile Banking ซึ่งจะต้องปรากฏข้อความว่า “e -Donation ชื่อและเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค” และระบุจำนวนเงินบริจาค พร้อมแจ้งความประสงค์ให้ธนาคารส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากร

            (2) กรณีบริจาคให้หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคโดยวิธีอื่นตามข้อ 4 ให้ผู้บริจาคแจ้งหน่วยรับบริจาคทำการบันทึก ชื่อ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร จำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค และวันเดือนปีที่บริจาคบนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th

            (3) ตรวจสอบรายชื่อหน่วยรับบริจาคและข้อมูลการบริจาคของตนผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th

            ข้อ  6  ข้อมูลการบริจาคที่ปรากฏในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ถือเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรของผู้บริจาค โดยไม่ต้องแสดงเอกสารหลักฐานการบริจาคนั้นต่อเจ้าพนักงานประเมิน

            ข้อ  7  ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e -Donation) ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป



ประกาศ ณ  วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561


เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

อธิบดีกรมสรรพากร



ราชกิจจานุเบกษา  เล่ม 135 ตอนพิเศษ 313 ง  หน้า 40-43  ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2561

ภาษาอังกฤษ (EN)

ขออภัย สำหรับหัวข้อนี้ไม่มีการแปลภาษาอังกฤษค่ะ

Sorry, This Regulation doesn’t have English Translation.

Tax-EZ(easy) Note