ประกาศฯ เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม DG.N.-VAT

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 246
เรื่อง (ไทย) | กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม |
เรื่อง (อังกฤษ) | |
ภาษาไทย (TH) | ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 246) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม _________________ อาศัยอํานาจตามความใมาตรา 85 วรรคสี่ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2534 อธิบดีกรมสรรพากรกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของข้อ 1 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 159) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 "ให้ผู้ประกอบการตามวรรคหนึ่งเฉพาะกรณีที่เป็นผู้ประกอบการตามข้อ 5 (1) (ก) ยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด (ภ.พ..01) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ได้วิธีเดียว” ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 5 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 159) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 214) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 5 ให้ผู้ประกอบการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยแสดงรายการให้ถูกต้องครบถ้วนและต้องมีหลักฐานเอกสารตามรายการ ดังต่อไปนี้ (1) กรณีผู้ประกอบการเป็นบุคคลธรรมดา (ก) สําหรับผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้มีสัญชาติไทย ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยใช้ห้องชุดเพื่อการอยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดเป็นสถานประกอบการเพียงแห่งเดียวและไม่มีสถานประกอบการแห่งอื่น ต้องมีใบทะเบียนพาณิชย์ จดทะเบียนพาณิชย์ประกอบพาณิชยกิจการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ (ข) สําหรับผู้ประกอบการซึ่งเป็นคนต่างด้าว ต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือใบสําคัญประจําตัวคนต่างด้าว (2) กรณีผู้ประกอบการเป็นคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนสามัญ กองทุน หน่วยงานหรือกิจการของเอกชนที่กระทําโดยบุคคลธรรมดาตั้งแต่สองคนขึ้นไปอันมิใช่นิติบุคคล ต้องมีหนังสือการจัดตั้งคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล และกรณีผู้ร่วมจัดตั้งคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลเป็นคนต่างด้าว ต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือใบสําคัญประจําตัวคนต่างด้าว (3) กรณีผู้ประกอบการเป็นนิติบุคคล ได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 39 องค์การของรัฐบาลตามมาตรา 2 แห่งประมวลรัษฎากร สหกรณ์และองค์กรอื่นที่กฎหมายกําหนดให้เป็นนิติบุคคล ต้องมีเอกสาร ดังนี้ (ก) กรณีผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร และได้ขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นปกติธุระโดยมีตัวแทนอยู่ในราชอาณาจักร และตัวแทนได้ยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแทนผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรดังกล่าว ต้องมีหนังสือตั้งตัวแทนเป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งมีการรับรองโดยสถานทูตหรือสถานกงสุลหรือบุคคลอื่นที่อธิบดีกรมสรรพากรเห็นชอบ (ข) กรณีกิจการร่วมค้า ต้องมีเอกสารการดําเนินกิจการร่วมค้า (ค) กรณีนิติบุคคลตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มชั่วคราวต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และสัญญาหรือโครงการที่แสดงถึงคู่สัญญา มูลค่าของสัญญา ระยะเวลาของสัญญาหรือโครงการที่เริ่มต้นและสิ้นสุด (ง) กรณีองค์การของรัฐบาล สหกรณ์ และองค์กรอื่นที่กฎหมายกําหนดให้เป็นนิติบุคคล ต้องมีหลักฐานที่แสดงฐานะนิติบุคคล (4) กรณีผู้ประกอบการตาม (1) ถึง (3) ใช้สถานที่อยู่อาศัยของตนเองหรือบุคคลอื่นเป็นสถานประกอบการ หรือใช้สถานประกอบการของบุคคลอื่นเป็นสถานประกอบการ ต้องมีเอกสารและดําเนินการดังต่อไปนี้ (ก) กรณีใช้สถานที่อยู่อาศัยของตนเองหรือบุคคลอื่นเป็นสถานประกอบการ หรือใช้สถานประกอบการของบุคคลอื่นเป็นสถานประกอบการ ให้ติดป้ายแสดงชื่อผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ไว้ในที่เปิดเผยซึ่งเห็นได้ง่าย ณ สถานประกอบการดังกล่าว กรณีสถานที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการตามวรรคหนึ่ง ตั้งอยู่ในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ต้องมีหนังสือรับรองของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดที่ระบุว่าสถานที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ประกอบการค้าของอาคารชุด ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด เว้นแต่กรณีผู้ประกอบการตาม (1) (ก) ไม่ต้องมีหนังสือรับรองของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดดังกล่าว (ข) กรณีเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีสัญญาเช่า โดยสัญญาเช่าดังกล่าวต้องระบุชื่อ ที่อยู่ของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ด้วย และถ้าเป็นกรณีเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้ใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นโดยไม่มีค่าตอบแทน ต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ (ค) กรณีผู้ประกอบการตาม (1) (ก) ใช้ห้องชุดเพื่อการอยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดเป็นสถานประกอบการ ต้องมีทะเบียนบ้านของที่ตั้งสถานประกอบการ และแผนที่แสดงที่ตั้งของสถานประกอบการโดยสังเขปพร้อมภาพถ่ายสถานประกอบการ และกรณีที่ใช้ที่อยู่อาศัยของตนเป็นสถานประกอบการ ต้องมีเอกสารที่แสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในห้องชุดเพื่อการอยู่อาศัยนั้นด้วย การยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามวรรคหนึ่ง ผู้ประกอบการต้องจัดเตรียมและพร้อมที่จะแสดงเอกสารตัวจริงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรด้วย การยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการตาม (1) (ก) ผู้ประกอบการต้องอัปโหลด (Upload) เอกสารตาม (4) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (WebSite) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ประกอบคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม” ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 5/1 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 159) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่าย และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 "ข้อ 5/1 ให้ผู้ประกอบการตามข้อ 5 (1) (ก) ต้องแสดงความยินยอมให้ผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นผู้ครอบครองข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ โดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของผู้ประกอบการ เปิดเผยข้อมูลต่อกรมสรรพากรเพื่อยืนยันว่าผู้ประกอบการมีการประกอบกิจการที่แท้จริงเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาอนุมัติการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มตามวรรคหนึ่ง หมายถึง ตลาด ช่องทาง หรือกระบวนการอื่นใดที่ผู้ประกอบการตามข้อ 5 (1) (ก) ใช้ในการขายสินค้าหรือให้บริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (8) ของวรรคสองของข้อ 6 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 159 เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 214) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560 "(8) ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ประกอบการตามข้อ 5 (1) (ก) มิได้อัปโหลด (Upload) หรืออัปโหลด (Upload) เอกสารหลักฐานตามข้อ 5 ไม่ถูกต้องครบถ้วน และมิได้แสดงหรือนําส่งเอกสารหลักฐานที่ขาดต่อเจ้าพนักงานสรรพากรให้ครบถ้วนตามที่เจ้าพนักงานสรรพากรร้องขอ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 9 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 159) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 214) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 9 ผู้มีอํานาจออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ บุคคลดังต่อไปนี้ (1) สรรพากรพื้นที่หรือผู้ที่สรรพากรพื้นที่มอบหมาย สําหรับผู้ประกอบการที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตท้องที่รับผิดชอบของสํานักงานสรรพากรพื้นที่นั้น (2) ผู้อํานวยการกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่หรือผู้ที่ผู้อํานวยการกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่มอบหมาย สําหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่” ข้อ 6 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ที่ลงในประกาศเป็นต้นไป ประกาศ วันที่ 14 กันยายน 2565 ลวรณ แสงสนิท (นายลวรณ แสงสนิท) อธิบดีกรมสรรพากร ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนพิเศษ 254 ง หน้า 78-81 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2565 |
ภาษาอังกฤษ (EN) | ขออภัย สำหรับหัวข้อนี้ไม่มีการแปลภาษาอังกฤษค่ะ Sorry, This Regulation doesn’t have English Translation. |
Tax-EZ(easy) Note |