ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 457)

เรื่อง  กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเป็นตัวแทนหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินได้

_________________

            อาศัยอำนาจตามความในวรรคสามของมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2521 อธิบดีกรมสรรพากร ให้ยกเว้นการออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับกรณีผู้จ่ายเงินได้หลายราย จ่ายเงินได้ให้แก่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลรายเดียว และผู้จ่ายเงินได้ได้แต่งตั้งให้ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายนั้น เป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย ยื่นแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนตน โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

            ข้อ  1  การแต่งตั้งตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ตังต่อไปนี้

            (1) ต้องมีการระบุในสัญญาอย่างชัดเจนว่า ผู้จ่ายเงินได้ตกลงให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินได้ โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ยื่นแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินได้ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร

            (2) ต้องมีการระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดสัญญาแต่งตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้กระทำการแทนนั้น

            (3) สัญญาแต่งตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้กระทำการแทนตาม (1) ต้องเสียอากรแสตมป์ เป็นตัวเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรเท่านั้น

            (4) ต้องเก็บรักษาสัญญาแต่งตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้กระทำการแทนตาม (1) รวมถึงหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแต่งตั้งตัวแทนนั้นไว้ ณ สำนักงานใหญ่ของผู้จ่ายเงินได้และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งเป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

            ข้อ  2  ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะเป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินได้หลายรายตามประกาศนี้ ขอเปิดใช้สิทธิและยอมรับข้อตกลงการขอเป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินได้ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของกรมสรรพากร (e-Filing) ระบบการให้บริการส่วนประกอบโปรแกรมสำหรับซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (WHT Software Component : SWC) หรือระบบให้บริการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับใช้งานออนไลน์ (WHT Service System : SVS) แล้วแต่กรณี

            ข้อ  3  เมื่อบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ได้รับสิทธิเป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินได้หลายรายตามข้อ 2 แล้ว ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในฐานะตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินได้ มีหน้าที่ ดังต่อไปนี้

            (1) ยื่นแบบยื่นรายการภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.53 ในฐานะผู้กระทำการแทน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร

            (2) ในกรณีที่มีการออกใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีให้กับผู้จ่ายเงินได้ ในรูปแบบกระดาษให้ตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินได้ระบุข้อความเพิ่มเดิมในใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี e-Tax Invoice & e-Receipt ว่า ... (ชื่อ) ... ได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ ... เป็นจำนวน ... บาท แทนผู้จ่ายเงินได้แล้ว และจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป”

            (3) กรณีที่มีการออกใบเสร็จรับเงิน หรือใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ที่ออกผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ให้ตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินได้ หมายเหตุเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี e-Tax Invoice & e-Receipt ว่า ... (ชื่อ) ... ได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ ... เป็นจำนวน ... บาท แทนผู้จ่ายเงินได้แล้ว และจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป”

            ข้อ  4  เมื่อตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินได้ ได้ปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในฐานะตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินได้สามารถใช้แบบ ภ.ง.ด.53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีหัก ณ ที่จ่ายเป็นหลักฐานในการเครดิตภาษี ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากรได้

            ข้อ  5  กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินได้ ก่อนประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ และสัญญาแต่งตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้กระทำการแทนมีการระบุวันสิ้นสุดสัญญาไว้ภายหลังประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับให้ถือว่าสัญญาดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขตามข้อ 1 ของประกาศนี้แล้ว ทั้งนี้ ผู้จ่ายเงินได้และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย ยังคงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อ 2 ข้อ 3 และข้อ 4 ของประกาศนี้ และต้องเก็บรักษาสัญญา รวมถึงหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ ณ สำนักงานใหญ่ พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

            ข้อ  6  บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หรือทางปฏิบัติใดที่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ ให้เป็นอันยกเลิก

            ข้อ  7  ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการจ่ายเงินได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568

ปิ่นสาย สุรัสวดี

อธิบดีกรมสรรพากร

ราชกิจจานุเบกษา  เล่ม 142  ตอนพิเศษ 174 ง  หน้า 9-11  ลงวันที่ 24 เมษายน 2568

ขออภัย สำหรับหัวข้อนี้ไม่มีการแปลภาษาอังกฤษค่ะ

Sorry, This Regulation doesn’t have English Translation.