Case study

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับ การหักค่าใช้จ่ายจริงของการให้เช่าอาคาร


เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับ การหักค่าใช้จ่ายจริงของการให้เช่าอาคาร
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 17/03/2024
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ข้อกฎหมาย
คำถาม

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับ การหักค่าใช้จ่ายจริงของการให้เช่าอาคาร  มีหลักเกณฑ์อย่างไร 

คำตอบ

ตอบ   หลักในการหัก ค่าใช้จ่ายจริงของบุคคลธรรมดา ตาม พ.ร.ฎ.11 มาตรา 5 วรรค 2 แห่งประมวลรัษฎากร ระบุให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร ทั้งนี้ ให้นำมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวล  มาใช้บังคับโดยอนุโลม ดังนั้น จึงสามารถเทียบเคียง หลักเดียวกับบริษัทค่ะ  กล่าวคือ การหักค่าใช้จ่ายจริงจากการให้เช่าบ้าน เช่าโรงงาน ต้องเป็นค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้องกับรายได้ค่ะ  (Matching) 


ตัวอย่างสมมุติตัวเลข  นาย ก. 

ปี 2566    

  • จ่ายค่าใช้จ่ายจากการปลูกสร้างบ้านเช่า หรือโรงงาน = 50,000 บาท
  • ยังไม่มีรายได้

ปี 2567     

  • จ่ายค่าใช้จ่ายจากการปลูกสร้างบ้านเช่า หรือโรงงาน  เพิ่มเติม = 20,000 บาท 
  • บ้านเช่า หรือโรงงาน สร้างเสร็จ 1 เมษายน 2567
  • มีรายได้ 30,000 บาท

คำนวณมูลค่าสินทรัพย์  = 50,000 + 20,000  = 70,000 บาท 

คำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ ประเภทอาคาร 5% 20 ปี = 70,000 x5%x9เดือน/12 = 2,625 บาท

การคำนวณภาษี (สมมุติไม่มีค่าใช้อื่นใดเพิ่มเติม แต่ความเป็นจริงคงมีเพิ่มให้บวกเพิ่มไปนะคะ) 

รายการ

ปี 2566

ปี 2567

รายได้

0

30,000

ค่าใช้จ่าย

0

2,625

รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย

0

27,375


จากตัวอย่าง 

-  ในปี 2566 อยู่ระหว่างก่อสร้าง ยังไม่มีรายได้ จึงไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายระหว่างก่อสร้างมาหักได้ค่ะ  

-  แต่ในปี 2567 สามารถหักได้ โดยให้คำนวณค่าใช้จ่ายในรูปแบบของค่าเสื่อมราคา ตามมาตรา 65 ทวิ(2) และ พ.ร.ฎ.145 ค่ะ


พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วย

การกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ 11)พ.ศ. 2502


มาตรา เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(5) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 ยอมให้หักค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้

                     (1) การให้เช่าทรัพย์สิน

                           (ก) ถ้าเป็นบ้าน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ ในกรณีเจ้าของเป็นผู้ให้เช่าให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ 30 ในกรณีให้เช่าช่วงให้หักค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเช่าที่เสียให้แก่ผู้ให้เช่าเดิม หรือผู้ให้เช่าช่วงแล้วแต่กรณี

                           (ข) ถ้าเป็นที่ดินที่ใช้ในการเกษตรกรรม ในกรณีเจ้าของเป็นผู้ให้เช่าให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ 20 ในกรณีให้เช่าช่วง ให้หักค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเช่าที่เสียให้แก่ผู้ให้เช่าเดิม หรือผู้ให้เช่าช่วง แล้วแต่กรณี

                           (ค) ถ้าเป็นที่ดินที่มิได้ใช้ในการเกษตรกรรมในกรณีเจ้าของเป็นผู้ให้เช่า ให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ 15 ในกรณีให้เช่าช่วง ให้หักค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเช่าที่เสียให้แก่ผู้ให้เช่าเดิม หรือผู้ให้เช่าช่วง แล้วแต่กรณี

                           (ง) ถ้าเป็นยานพาหนะ ในกรณีเจ้าของเป็นผู้ให้เช่า ให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ 30 ในกรณีให้เช่าช่วง ให้หักค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเช่าที่เสียให้แก่ผู้ให้เช่าเดิม หรือผู้ให้เช่าช่วง แล้วแต่กรณี

                           (จ) ถ้าเป็นทรัพย์สินอย่างอื่น ในกรณีเจ้าของเป็นผู้ให้เช่า ให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ 10 ในกรณีให้เช่าช่วง ให้หักค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเช่าที่เสียให้แก่ผู้ให้เช่าเดิมหรือผู้ให้เช่าช่วง แล้วแต่กรณี

 เว้นแต่ผู้มีเงินได้ตาม (ก) ถึง (จ) จะแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานประเมินและพิสูจน์ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้นก็ยอมให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร ทั้งนี้ ให้นำมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ถ้าตามหลักฐานที่นำมาพิสูจน์ ปรากฏว่ามีรายจ่ายที่หักได้ตามกฎหมายน้อยกว่าอัตราค่าใช้จ่ายที่กำหนดไว้ข้างต้น ก็ให้ถือว่ามีค่าใช้จ่ายเพียงเท่าหลักฐานที่นำมาพิสูจน์


มาตรา 65 เงินได้ที่ต้องเสียภาษีตามความในส่วนนี้คือกำไรสุทธิซึ่งคำนวณได้จากรายได้จากกิจการ หรือเนื่องจากกิจการ ที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีหักด้วยรายจ่ายตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี และรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวให้มีกำหนดสิบสองเดือน เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้จะน้อยกว่าสิบสองเดือนก็ได้ คือ
       (ก) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเริ่มตั้งใหม่ จะถือวันเริ่มตั้งถึงวันหนึ่งวันใดเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกก็ได้
       (ข) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอาจยื่นคำร้องต่ออธิบดี ขอเปลี่ยนวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ในกรณีเช่นว่านี้ให้อธิบดีมีอำนาจสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาตสุดแต่จะเห็นสมควร คำสั่งเช่นว่านั้นต้องแจ้งให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้ยื่นคำร้องทราบภายในเวลาอันสมควร และในกรณีที่อธิบดีสั่งอนุญาต ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นถือปฏิบัติตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่อธิบดีกำหนด

 

การคำนวณรายได้และรายจ่ายตามวรรคหนึ่งให้ใช้เกณฑ์สิทธิ์ โดยให้นำรายได้ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีใด แม้ว่าจะยังไม่ได้รับชำระในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น มารวมคำนวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น และให้นำรายจ่ายทั้งสิ้นที่เกี่ยวกับรายได้นั้น แม้จะยังมิได้จ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นมารวมคำนวณเป็นรายจ่ายของรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
 ในกรณีจำเป็น ผู้มีเงินได้จะขออนุมัติต่ออธิบดีเพื่อเปลี่ยนแปลงเกณฑ์สิทธิ์และวิธีการทางบัญชี เพื่อคำนวณรายได้และรายจ่ายตามวรรคสองก็ได้ และเมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีแล้ว ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่อธิบดีกำหนดเป็นต้นไป



มาตรา 65 ทวิการคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิในส่วนนี้ให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  (2) ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน ให้หักได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและอัตราที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา




พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร
 
ว่าด้วยหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145)พ.ศ. 2527


มาตรา การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินให้คำนวณหักตามระยะเวลาที่ได้ทรัพย์สินนั้นมาในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีในกรณีที่รอบระยะเวลาใดไม่เต็มสิบสองเดือนให้เฉลี่ยตามส่วนสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ทั้งนี้ ไม่เกินอัตราร้อยละของมูลค่าต้นทุนตามประเภทของทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้ 

(1) อาคาร


อาคารถาวร

ร้อยละ 5


เรื่อง

บุคคลธรรมดามีรายได้ค่าเช่าคอนโด

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 04/11/2023 - วันที่ตอบ 15/12/2023

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา,ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

ข้อกฎหมาย

มาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร, มาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527

ปุจฉา

1. อยากทราบว่าผมเป็นบุคคลธรรมดาถ้ากู้ธนาคารเพื่อซื้อคอนโด (สินเชื่อที่อยู่อาศัย) แล้วนำมาปล่อยเช่าให้กับบริษัทเพื่อน

    ตอนยื่นภาษีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5)(ก) ผมเลือกแบบยื่นตามค่าใช้จ่ายจริง

ไม่ทราบว่าผมสามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารมาเป็นค่าใช้จ่ายตอนยื่นภาษีได้ไหมครับ


2.ผมมีข้อสงสัยรบกวนขอคำปรึกษาครับ

    กรณีที่ นาย ก (บุคคลธรรมดา) มี Condo 2 ห้อง ซื้อและโอนกรมสิทธิ์มาพร้อมกัน และมีบริษัท A มาขอเช่าทั้ง 2 ห้อง โดยทำเป็นสัญญาเช่า 2 ฉบับพร้อมกัน (ฉบับละห้อง)

    (1) คอนโดห้องที่ 1 : มีรายได้ค่าเช่าปีละ = 450,000 บ. มีค่าเสื่อมปีละ = 500,000 บ. และมีค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารปีละ = 230,000 บ.

    (2) คอนโดห้องที่ 2 : มีรายได้ค่าเช่าปีละ = 200,000 บ. มีค่าเสื่อมปีละ = 140,000 บ. ไม่มีค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ย (ซื้อเงินสด)

    อยากทราบว่า

ในการคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีสามารถนำรายได้และค่าใช้จ่ายจากการปล่อยเช่าคอนโดทั้ง 2 ห้อง มายื่นรวมกัน ดังตัวอย่างตามด้านล่างนี้ (แบบที่1) ได้ไหมครับ

    - เงินได้ทั้งหมด (รวมรายได้ค่าเช่าของคอนโดทั้ง 2 ห้อง) = 450,000 + 200,000 = 650,000 บ.

    - หักค่าใช้จ่ายตามจริง (รวมค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายของคอนโดทั้ง 2 ห้อง) = 500,000 + 140,000 + 230,000 = 870,000 บ.

    ในกรณีนี้เมื่อนำรายได้ทั้งหมด มาหักค่าใช้จ่ายตามจริงของห้องชุดทั้ง 2 ห้องแล้ว ทำให้ไม่มีส่วนต่างที่ต้องนำไปคำนวณภาษี หรือว่าต้องยื่นแยกตามแต่ละสัญญาเช่า (แบบที่ 2):

    - สัญญาเช่าห้องที่ 1 : รายได้จากค่าเช่า = 450,000 บ. เมื่อหักค่าใช้จ่ายตามจริง = 500,000 + 230,000 = 730,000 จะไม่มีส่วนต่างที่ต้องนำไปคำนวณภาษี

    - สัญญาเช่าห้องที่ 2 : รายได้จากค่าเช่า = 200,000 บ. เมื่อหักค่าใช้จ่ายตามจริง = 140,000 จะมีส่วนต่าง 60,000 บ. ที่จะต้องนำไปคำนวณภาษีจะสามารถยื่นคิดภาษีตามแบบที่ 1 ได้ไหมครับเนื่องจากเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5)(ก) เหมือนกัน และคนเช่าก็เป็นบริษัทเดียวกันครับ

วิสัชนา

1.กรณีคุณ Te Ty ในฐานะผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดา มีเงินได้พึงประเมินจากการให้เช่าห้องชุดในอาคารชุดที่ร่วมกับเพื่อน ตามมาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร หากห้างหุ้นส่วนสามัญดังกล่าวเลือกหักค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงและสมควร (ค่าใช้จ่ายจริง) ในการยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.94 และ ภ.ง.ด.90 ย่อมมีสิทธินำดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารเพื่อซื้อคอนโด ซึ่งเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย มาคำนวณหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ หากดอกเบี้ยดังกล่าวได้กู้ร่วมกับเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน รวมทั้งค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาห้องชุดในอาคารชุดดังกล่าวที่คำนวณหักตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527  



 

2. กรณีที่ นาย ก (บุคคลธรรมดา) มี Condo 2 ห้อง ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์มาพร้อมกัน และมีบริษัท A มาขอเช่าทั้ง 2 ห้อง โดยทำเป็นสัญญาเช่า 2 ฉบับพร้อมกัน (ฉบับละห้อง)

    (1) คอนโดห้องที่ 1: มีรายได้ค่าเช่าปีละ = 450,000 บ. มีค่าเสื่อมปีละ = 500,000 บ. และมีค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารปีละ = 230,000 บ.

    (2) คอนโดห้องที่ 2: มีรายได้ค่าเช่าปีละ = 200,000 บ. มีค่าเสื่อมปีละ = 140,000 บ. ไม่มีค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ย (ซื้อเงินสด)

    ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สามารถนำรายได้และค่าใช้จ่ายจากการปล่อยเช่าคอนโดทั้ง 2 ห้อง มายื่นรวมกัน ตามแบบที่ 1 ได้ ดังนี้

    - เงินได้ค่าเช่าอาคารชุดทั้ง 2 ห้อง  = 450,000 + 200,000 = 650,000 บาท

    - หักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควรหรือค่าใช้จ่ายจริง (รวมค่าสึกหรอและค่าเสื่อม และค่าใช้จ่ายของคอนโดทั้ง 2 ห้อง) = 500,000 + 140,000 + 230,000 = 870,000บ.

    ในกรณีนี้เมื่อนำรายได้ทั้งหมด มาหักค่าใช้จ่ายตามจริงของห้องชุดทั้ง 2 ห้องแล้ว ทำให้ไม่มีส่วนต่างที่ต้องนำไปคำนวณภาษี เนื่องจาก เงินได้พึงประเมินจากการให้เช่าทรัพย์สิน ตามมาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้มีสิทธินำเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินมารวมกันทั้งหมด แล้วเลือกหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการการให้เช่าทั้งสิ้นมาถือรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ให้เช่า



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"



หมายเหตุ: TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น  กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง

หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ