Case study

บริษัท จ่ายค่าคอมมิชชั่น ให้ พนักงานขาย พนักงานตำเเหน่งอื่นๆ กรรมการ เเละ บุคคลภายนอก


เรื่อง บริษัท จ่ายค่าคอมมิชชั่น ให้ พนักงานขาย พนักงานตำเเหน่งอื่นๆ กรรมการ เเละ บุคคลภายนอก
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 18/05/2024
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา,ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ข้อกฎหมาย มาตรา 40(1)(2)(8) มาตรา 50(1) มาตรา 3 เตรส ท.ป.4/2528 ข้อ 12/1
คำถาม

บริษัทจ่ายค่าคอมมิชชั่น ให้ พนักงานขาย พนักงานตำเเหน่งอื่นๆ   กรรมการ เเละ บุคคลภายนอก

1. บริษัทจะต้องคำนวณภาษี หัก ณ ที่จ่าย คอมมิชชั่น อย่างไร

2. ค่าคอมมิชชั่นที่บริษัทจ่าย ถือเป็นเงินได้พึงประเมินมาตราใด

3. บริษัทจะทราบได้อย่างไร ว่าการจ่ายเเบบใด เป็นเงินได้ มาตราใด

คำตอบ

ตอบ   การคำนวณภาษีของ ค่าคอมมิชชั่น 


เป็นพนักงานของบริษัท

ไม่ใช่พนักงานของบริษัท

พนักงานทุกตำแหน่ง

เงินได้พึงประเมิน มาตรา 40(1) 

หัก ณ ที่จ่ายตาม อัตราก้าวหน้า มาตรา 50(1)


กรรมการ

เงินได้พึงประเมิน มาตรา 40(2) 

หัก ณ ที่จ่ายตาม อัตราก้าวหน้า มาตรา 50(1)

ไม่ได้ ประกอบกิจการในรูปแบบธุรกิจ 

 มาตรา 40(2)

หัก ณ ที่จ่ายตาม อัตราก้าวหน้า  มาตรา 50(1)


ประกอบกิจการในรูปแบบธุรกิจ 

มาตรา 40(8)

หัก ณ ที่จ่าย 3%  มาตรา 3 เตรส ท.ป.4/2528 ข้อ 12/1


ข้อสังเกตุในการเเยกประเภทเงินได้  

พนักงานประจำ (ลูกจ้าง) >> เป็นเงินได้ มาตรา 40(1)  ทุกกรณี ไม่ว่าจะได้รับเงินเพิ่มจากการณ์ใดๆ  เนื่องจากถือเป็นประโยชน์ใดๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน 


กรรมการ(ไม่ใช่ลูกจ้าง)  >>  เป็นเงินได้ มาตรา 40(2)  หรือ อาจเป็น 40(8) ได้ ถ้าทำในรูปแบบธุรกิจค่ะ   


บุคคลอื่น (ไม่ใช่ลูกจ้าง)  >>  เป็นเงินได้ มาตรา 40(2)  หรือ อาจเป็น 40(8) ได้ ถ้าทำในรูปแบบธุรกิจค่ะ   



มาตรา40   เงินได้พึงประเมินนั้น คือเงินได้ประเภทต่อไปนี้ รวมตลอดถึงเงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้สำหรับเงินได้ประเภทต่าง ๆ ดังกล่าว ไม่ว่าในทอดใด


(1)  เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงานไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ เงินค่าเช่าบ้าน เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า เงินที่นายจ้างจ่ายชำระหนี้ใดๆ ซึ่งลูกจ้างมีหน้าที่ต้องชำระ และเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน


(2) เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้ ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียม ค่านายหน้า ค่าส่วนลด เงินอุดหนุนในงานที่ทำ เบี้ยประชุม บำเหน็จ โบนัส เงินค่าเช่าบ้าน เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่ผู้จ่ายเงินได้ให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า เงินที่ผู้จ่ายเงินได้จ่ายชำระหนี้ใดๆ ซึ่งผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องชำระ และเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้นั้นไม่ว่าหน้าที่ หรือตำแหน่งงาน หรืองานที่รับทำให้นั้นจะเป็นการประจำหรือชั่วคราว


(8) เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (1) ถึง (7) แล้ว 





มาตรา 50 ให้บุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคม หรือคณะบุคคลผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 หักภาษีเงินได้ไว้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมินตามวิธีดังต่อไปนี้
             (1) ในกรณีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) และ (2) ให้คูณเงินได้พึงประเมินที่จ่ายด้วยจำนวนคราวที่จะต้องจ่าย เพื่อให้ได้จำนวนเงินเสมือนหนึ่งว่าได้จ่ายทั้งปีแล้ว คำนวณภาษีตามเกณฑ์ในมาตรา 48 เป็นเงินภาษีทั้งสิ้นเท่าใดให้หารด้วยจำนวนคราวที่จะต้องจ่าย ได้ผลลัพธ์เป็นเงินเท่าใดให้หักเป็นเงินภาษีไว้เท่านั้น
             ถ้าการหารด้วยจำนวนคราวที่จะต้องจ่ายตามความในวรรคก่อนไม่ลงตัวเหลือเศษเท่าใด ให้เพิ่มเงินเท่าจำนวนที่เหลือเศษนั้นรวมเข้ากับเงินภาษีที่จะต้องหักไว้ครั้งสุดท้ายในปีนั้น เพื่อให้ยอดเงินภาษีที่หักรวมทั้งปีเท่าจำนวนภาษีที่จะต้องเสียทั้งปี




เรื่อง

หัก ณ ที่จ่าย ค่าคอมมิชชั่นให้แก่กรรมการ

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 25/10/2023 - วันที่ตอบ 06/11/2023

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

ข้อกฎหมาย

มาตรา 40 (2), มาตรา 50 (1) วรรคหนึ่ง และวรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร , คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 115/2545

ปุจฉา

ค่าคอมมิชชั่นที่ทำการจ่ายให้กับทางกรรมการ สามารถหัก 3% แล้วนำยื่น ภ.ง.ด.3 ได้มั้ยค่ะมีการจ่ายไม่พร้อมกับเงินเดือนนะค่ะ

วิสัชนา

โดยทั่วไป ค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายให้กับกรรมการเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ พึงต้องนำมารวมกับเงินเดือนที่จ่ายให้แก่กรรมการแล้วคำนวณหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ ที่จ่าย ทำนองเดียวกับ “โบนัส” ที่จ่ายให้แก่กรรมการ ทั้งนี้ ตามนัยมาตรา 50 (1) วรรคหนึ่ง และวรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร

    อย่างไรก็ตามหากค่านายหน้าที่จ่ายให้แก่กรรมการเป็นไปตามเงื่อนไขตามข้อ 2 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 115/2545 โดยกรรมการมีหลักฐานในการประกอบกิจการให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า ได้ประกอบกิจการในรูปแบบของการทำธุรกิจและสามารถพิสูจน์รายจ่ายในการประกอบกิจการได้ ซึ่งต้องมีลักษณะการประกอบกิจการดังต่อไปนี้ กรมสรรพากรก็อนุโลมให้ถือว่า เงินได้ค่าคอมมิชชั่นดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตรา 3% ตามข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 

        “(ก) ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนและ

         (ข) ได้จัดตั้งเป็นสำนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีอาคารสำนักงานเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หรือเช่าจากบุคคลอื่น โดยมีหลักฐาน เช่น หลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สัญญาเช่าสำนักงาน และ

         (ค) มีการลงทุนด้วยการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ มีค่าใช้จ่ายสำนักงาน และ

         (ง) มีการจ้างลูกจ้างหรือพนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีหลักฐานตามสัญญาจ้างแรงงาน หลักฐานการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และหลักฐานการแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่ง ในกรณีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่มีภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายและนำส่ง จะต้องมีหลักฐานเกี่ยวกับการยื่นรายการเกี่ยวกับค่าจ้างแรงงานตามแบบ ภ.ง.ด.1 ก.

         (จ) มีค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ เช่น ค่ารับรอง หรือค่าบริการเพื่อประโยชน์ในการติดต่องานกับลูกค้า”

ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"


เรื่อง

การยื่นภาษีบุคคลธรรมดาและการหักค่าใช้จ่าย จากรายได้แบ่งค่าคอมมิชชั่น Kerry

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 07/11/2022 - วันที่ตอบ 08/11/2022

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ข้อกฎหมาย

มาตรา 40 (1) (2) แห่งประมวลรัษฎากร, พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2502

ปุจฉา

สอบถาม เรื่อง การยื่นภาษีบุคคลธรรมดา และ การหักค่าใช้จ่าย จากรายได้ค่าบริการ

    สืบเนื่องมาจาก ดิฉันมีรายได้ประจำเป็นเงินเดือน 40 (1) และ ได้ซื้อเฟรนไซส์ เคอรี่ มา โดยได้รับส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่น 15% จากรายได้ โดยจะโดนหัก ภาษี ณ ที่ จ่าย 3 % แต่ในหนังสือ หัก ณที่จ่าย ลงไว้ที่ ข้อ 6 เป็นค่าบริการ

จึงจะเรียนสอบถามว่า

    กรณีแบบนี้ ถือว่าเป็นการจ้างเหมา และสามารถหักค่าใช้จ่าย ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำไฟ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการดำเนินงาน ได้หรือไม่หากได้ สามารถหักได้ทั้งจำนวน (ถ้ามีใบเสร็จ) หรือหักเหมา 60% 

วิสัชนา

กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาเงินได้พึงประเมินจากการประกอบธุรกิจการให้บริการอันเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร (ตามข้อ 2.1 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 115/2545) ดังนี้

    หากผู้มีเงินได้หลักฐานในการประกอบกิจการให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า ได้ประกอบกิจการในรูปแบบของการทำธุรกิจ และสามารถพิสูจน์รายจ่ายในการประกอบกิจการได้ ซึ่งต้องมีลักษณะการประกอบกิจการดังนี้

    (1) ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน (เว้นแต่จะได้รับยกเว้นกรณีมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท) และ

    (2) ได้จัดตั้งเป็นสำนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีอาคารสำนักงานเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หรือเช่าจากบุคคลอื่น โดยมีหลักฐาน เช่น หลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สัญญาเช่าสำนักงาน และ

    (3) มีการลงทุนด้วยการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ มีค่าใช้จ่ายสำนักงาน และ

    (4) มีการจ้างลูกจ้างหรือพนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีหลักฐานตามสัญญาจ้างแรงงาน หลักฐานการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และหลักฐานการแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่ง ในกรณีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่มีภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายและนำส่ง จะต้องมีหลักฐานเกี่ยวกับการยื่นรายการเกี่ยวกับค่าจ้างแรงงานตามแบบ ภ.ง.ด.1 ก. และ

    (5) มีค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ เช่น ค่ารับรอง หรือค่าบริการเพื่อประโยชน์ในการติดต่องานกับลูกค้า



 

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า

    กรณีผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา นอกจากเงินได้ประจำจากการรับจ้างแรงงาน อันเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร แล้ว ยังมีเงินได้จากการลงทุนในเเฟรนไซส์ เคอรี่ โดยได้รับส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่น 15% จากรายได้ค่าขนส่ง นั้น หากตามข้อตกลงกำหนดให้ Franchisee ของ Kerry Express ได้รับค่าคอมมิชชั่น ซึ่งโดยทั่วไปเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร แต่หากหากผู้มีเงินได้หลักฐานในการประกอบกิจการให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า ได้ประกอบกิจการในรูปแบบของการทำธุรกิจ และสามารถพิสูจน์รายจ่ายในการประกอบกิจการได้ ซึ่งต้องมีลักษณะการประกอบกิจการตามข้อ 2.1 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 115/2545 ดังกล่าวข้างต้น ก็ย่อมอนุโลมให้ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ได้ โดยผู้มีเงินได้ต้องแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานประเมินและพิสูจน์ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้น ก็ยอมให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร ทั้งนี้ ให้นำมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ถ้าตามหลักฐานที่นำมาพิสูจน์นั้น ปรากฏว่ามีรายจ่ายที่หักได้ตามกฎหมายน้อยกว่าอัตราค่าใช้จ่ายที่กำหนดไว้ข้างต้น ก็ให้ถือว่ามีค่าใช้จ่ายเพียงเท่าหลักฐานที่นำมาพิสูจน์ ตามมาตรา 46 ประกอบมาตรา 8 ทวิ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2502 ไม่สามารถหักค่าใช้่จ่ายเป็นการเหมาในอัตรา 60% ของเงินได้ได้

    เว้นแต่เงินได้จากการขายกล่องพัสดุ Kerry Express ผู้ประกอบการสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาในอัตรา 60% ของเงินได้ หรือจะเลือกหักค่าใช่จ่ายตามความจำเป็นและสมควรมาตรา 8 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2502 ก็ได้


เรื่อง

หน้าที่เเละภาษีหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายค่าคอมมิชชั่น ให้กับบุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัทฯ

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 15/03/2022 - วันที่ตอบ 02/05/2022

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

ข้อกฎหมาย

มาตรา 40 (2) มาตรา 50 (1) วรรคหนึ่ง และวรรคสอง มาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 62)

ปุจฉา

กรณีจ่ายค่าคอมมิชชั่น ให้กับบุคคธรรมดาที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัทฯแล้วไม่หัก ณ ที่จ่าย ด้วยให้เหตุผลว่า ถือเป็นการจ่ายเงินได้ตามมาตรา 40 (2) ที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ผู้รับเงินต้องเสียภาษี (จ่ายครั้งละไม่กี่บาท แต่หลายครั้ง แต่รวมทั้งปีไม่ถึงแสน) และพอสิ้นปีเราก็สรุปเงินที่จ่ายค่าคอมให้แต่ละราย โดยรวมเงินได้ที่จ่ายไปทั้งปีของแต่ละคน ยื่นเงินได้ ส่วนภาษีใส่เป็นยอด 0 ยื่นแบบ ภงด.1 ก ทำเป็นยื่นเพิ่มเติม แยกจากการยื่น ภงด.1 ก ที่เป็นเงินได้ของพนักงานประจำทำแบบนี้ในทางสรรพากรยอมรับได้มั้ยคะ

วิสัชนา

การดำเนินการเกี่ยวกับการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับค่านายหน้าหรือคอมมิชชั่น ซึ่งบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) วรรคหนึ่ง และวรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ตามข้อเท็จจริงข้างต้น ชอบด้วยกฎหมายแล้วครับ แต่ขอให้ปฏิบัติเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 62) ฯ ให้ถูกต้องครบถ้วนด้วยครับ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"



หมายเหตุ: TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น  กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง

หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ